การปลูกต้นแก้วมังกร เงินลงทุน ประมาณ 135,000 บาท / 5 ไร่ / ปี ( คำนวณเฉลี่ยจากระยะเวลาการปลูก 12 ปี ) เป็นค่าใช้จ่ายต...
การปลูกต้นแก้วมังกร
เงินลงทุน
ประมาณ 135,000 บาท/
5 ไร่/ ปี (คำนวณเฉลี่ยจากระยะเวลาการปลูก
12 ปี) เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ดังนี้
(1)
ต้นทุนคงที่
ค่าเสา ร้าน(ค้าง) ท่อน้ำจ่ายตามหลัก ต้นพันธุ์ ค่าเตรียมดินและหลุมปลูก (750 หลัก x 300 บาท) = 225,000 บาท ค่าอุปกรณ์ให้น้ำและเครื่องสูบน้ำ
30,000 บาท ค่าปรับพื้นที่
(800 บาท x 5 ไร่) = 4,000 บาท ค่าถังพ่นสารกำจัดแมลง และอุปกรณ์ทำสวน
10,000 บาท รวม 269,000 บาท
(2)
ค่าใช้จ่ายต่อปี
ค่าใช้ที่ดิน 1,000 บาท ค่าปุ๋ยต่าง
ๆ และวัสดุคลุมดิน 20,000 บาทสารกำจัดมด และแมลง 3,000 บาท
ดอกเบี้ย (สมมติคิด 6%
ตลอด) 269,000 x 6%= 16,140 บาทฉะนั้นค่าลงทุนในข้อ (1) 12 = 22,417 บาท
ค่าปราบวัชพืช 5,050 บาท เฉลี่ยปีละ 269,000 บาท ค่าสูบน้ำและไฟฟ้า
3,000 บาท ค่าแรง 54,000
บาทกันไว้เป็นค่าใช้จ่ายที่ยังไม่ กิดขึ้นและเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ 10,000 บาท รวม 134,607 บาท (ยังไม่รวมค่าเสื่อมสภาพและค่าบำรุงรักษาวัสดุอุปกรณ์ต่าง
ๆ เช่น ยานพาหนะขนส่ง อุปกรณ์สื่อสารและค่าใช้จ่ายในการบริหารงานเป็นต้น)
รายได้
323,726 บาท/
ปี
ก. เมื่อต้นแก้วมังกรมีอายุครบ
12 ปี คำนวณการเก็บเกี่ยวผลและขายได้ 11 ปี ๆ ละ 4,000 กิโลกรัม/ไร่จากราคาขายกิโลกรัมละ 25 บาท (4,000 กิโลกรัม x 5 ไร่ x 11 ปี x
25 บาท) = 5,500,000 บาท
ข. ค่าใช้จ่ายต่อปี
134,607 บาท (134,607 x 12 ปี)
= 1,615,284 บาท ผลตอบแทนใน 12 ปี 3,884,716
(ก– ข.) เฉลี่ย 323,726 บาท/ปี =26,977 บาท/ เดือน
วัสดุ/อุปกรณ์
เสา
(ท่อปูนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว
ยาว 2 เมตร หรือมากกว่า
จำนวน 750 หลักร้านหรือค้างไม้
(ทำจากไม้แดงเพราะทนทานได้ประมาณ 3-5 ปี) เสาไม้เนื้อแข็งขนาด 3 นิ้ว ยาว 1 เมตร
ตะปูขนาด 2-3 นิ้ว
จอบ เสียม กรรไกรตัดผล ทราย หิน ปูนซีเมนต์ท่อน้ำจ่ายตามหลัก ต้นพันธุ์ (ราคาตั้งแต่
40 บาท 50 บาท 100 บาทขึ้นไป) มีด ถุงมุ้งเชือกฟาง อุปกรณ์ให้น้ำและเครื่องสูบน้ำ ถังพ่นสารกำจัดมด
แมลง และอุปกรณ์ทำสวน
ปุ๋ย วัสดุคลุมดิน สารกำจัดมด แมลง
แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์
ไม้แดงและเสาท่อปูนจากร้านขายวัสดุก่อสร้าง และร้านขายไม้ก่อสร้าง (ถ้าไม่มีขนาดที่ต้องการอาจใช้วิธีสั่งทำวัสดุอื่นจากร้านขายอุปกรณ์การเกษตร
และกิ่งพันธุ์ตลาดนัดสวนจตุจักร งานเกษตรแฟร์
ส่วนใหญ่ ๆ ที่ทำกิ่งพันธุ์แก้วมังกรขาย
ชนิดของแก้วมังกร
-
พันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดง ได้แก่ พันธุ์บ้านโป่งจังหวัดราชบุรี สวนจันทบุรี ฯลฯ
-
พันธุ์เนื้อแดงเปลือกแดง ได้แก่ โมน่าแดนซิส เอสคิวอินทเลนซิส
คอสต้าลิเซนลิสโปลีไรซี
-
พันธุ์ผิวทอง เนื้อขาว
การเลือกกิ่งพันธุ์
1.
ควรเป็นกิ่งพันธุ์ที่รู้จักกันแพร่หลาย และได้รับการยอมรับจากตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
2.
เจริญเติบโตได้ดี ปัญหาศัตรูพืชน้อย
3.
ให้ผลจำนวนมาก รสชาดดีถูกใจผู้บริโภค และมีการทดลองปลูกได้ผลดีในหลายพื้นที่ และสามารถพัฒนาเป็นสินค้าส่งออกได้
4. เลือกใช้กิ่งพันธุ์จากสวนที่ประสบความสำเร็จแบบมืออาชีพและมีมาตรฐานในการผลิตกิ่งพันธุ์
วิธีการปลูก
1.
กำหนดระยะห่างระหว่างต้น 3.5 เมตร และระหว่างแถว 3 เมตร
(หรือ 3 ม. X 4 ม.)
2.
ขุดหลุมลึกประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อปักเสา
โดยขุดให้กว้างกว่าเสาเล็กน้อย
3.
นำเสาไม้ขนาดหน้ากว้าง 3 นิ้ว มาเสี้ยมให้ปลายแหลมเป็นลิ่ม
ตอกลงกลางหลุมใช้ตะปู
4-5 ตัว
ตอกบนเสาให้หัวตะปูโผล่ขึ้นมา ทั้งนี้ต้องตอกเสาให้โผล่พ้นหลุม10-12 เซนติเมตร
4. นำท่อปูนมาใส่ในหลุมที่มีเสาไม้ปักอยู่ให้ตั้งฉากกับพื้นดิน
(เสาจะอยู่ภายในท่อปูน)ใส่ดินลง ข้าง ๆ เสาปูนด้านนอกให้เต็มหลุม
กลบให้แน่นพอควร
5. ผสมปูนซีเมนต์ หินและทรายลงในท่อปูนให้มิดหัวตะปูทิ้งไว้ 2 วัน ปูนซีเมนต์จะแข็งตัวและยึดติดกับเสา
ทำให้เมื่อใส่น้ำในท่อเสาปูนจะไม่ร้อน นำไม้แดงมาต่อบนหัวเสาเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส เพื่อเป็นร้านให้แก้วมังกรเลื้อย
6. ขุดหลุมข้าง ๆ เสาทั้งสี่ด้าน ขนาดกว้าง 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ให้จุดศูนย์กลางหลุมห่างจากเสา
30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ที่ก้นหลุม 1 ช้อนแกง/หลุม และนำแกลบเก่ามาผสมปุ๋ยคอก อย่างละเท่า ๆ
กันเทก้นหลุม ๆ ละครึ่งปี๊บ
7. ใช้มีดกรีดถุงพันธุ์
2 ด้านตรงกัน ดึงพลาสติกแบะออกเป็น 2 ด้าน ประคองวัสดุปลูกที่ติดกับต้น
แก้วมังกรใส่ตรงกลางหลุม
(ระวังอย่าให้ต้นช้ำและรากขาด)
โดยหันด้านแบนของต้นเข้าหาเสา
และให้รากอยู่ตำแหน่งผิวดินไม่เกิน 5 เซนติเมตร จัดลำต้นให้เอนเข้าหาเสาเล็กน้อย เอาดินกลบใช้เชือกฟางมาผูกลำต้นชิดติดกับเสา
8.
รดน้ำให้ชุ่มเสมอสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ถ้าอากาศร้อนจัดให้บังแดดด้วยทางมะพร้าวหรือกิ่งไม้ที่หา ได้ง่าย ใช้สายยางฉีดน้ำลงไปในเสาปูนจนเกือบเต็ม
9.
ใส่ปุ๋ยสูตร 15 – 15 – 15 ผสมกับภูไมต์ในอัตรา 4 : 1 มูลไก่ 1 ถ้วยต่อหลัก เดือนละ1 ครั้ง
10.
นำจุลินทรีย์อีเอ็มมาผสมกากน้ำตาลและน้ำ รดเป็นระยะ
ๆ เมื่อต้นแก้วมังกรแตกกิ่งออกมาเป็นจำนวนมากต้องตัดทิ้งให้หมด
และปล่อยให้ต้นเจริญเติบโตจนถึงปลายหลักและขึ้นค้าง จัดกิ่งให้กระจายไปทั่วค้างเพื่อความสมดุล และมัดกิ่งให้อยู่กับร้าน
11.
ต้นแก้วมังกรจะเริ่มออกดอกภายในระยะเวลา 8 เดือน
ให้เริ่มใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 และเมื่อติดผลอ่อนกลีบดอกที่อยู่ปลายผลแก้วมังกรจะแห้งแต่ไม่ร่วง
(เป็นที่อาศัยของมดดำ) ให้ดึงกลีบดอกที่แห้งออกเพื่อให้ผลโตเร็ว
12.
เมื่อต้นแก้วมังกรติดผลให้เลือกผลที่สมบูรณ์ไว้ไม่เกินกิ่งละ 2-3 ผล ผลที่เลื้อยถึงดินให้ใช้เชือก โยงขึ้นไม่ให้ผลติดกับดินและสวมถุงมุ้งเพื่อป้องกันนกและแมลงวันผลไม้
ส่วนกิ่งก็ตัดแต่งออก
13.
ภายหลังจากที่ต้นแก้วมังกรออกดอกแล้ว 45 วัน ผลจะสุก สามารถเก็บขายได้ต้นแก้วมังกรจะออกดอกและติดผลไปเรื่อยๆ
(ต้นเดือนพฤษภาคม-ปลายตุลาคม)
14.
กิ่งที่ออกดอกแล้วจะไม่ติดผลอีกให้ตัดทิ้งเพื่อให้แตกกิ่งใหม่ กิ่งพันธุ์ส่วนที่ตัดออกสามารถนำไปขยายพันธุ์โดยการปักชำในที่ร่มรำไร
ใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะเริ่มออกรากและแตกยอด
15.
เมื่อปักชำกิ่งพันธุ์ได้ 6-7 สัปดาห์ ลำต้นจะยังอ่อนหักง่ายให้ใช้หลักปักและเชือกผูกกิ่งติดกับหลัก
วัสดุที่ใช้ปักชำ
ถุงดำ แกลบดำ ทรายหยาบ ขุยมะพร้าว กิ่งพันธุ์ควรเลือกกิ่งพันธุ์ที่มีอายุมากกว่า 1
ปี มีสีใบเข้ม
สะอาด ไม่มีตำหนิ อ้วนและสมบูรณ์แข็งแรง
ความยาว 25-40 เซนติเมตรหรือมากกว่า
การบำรุงรักษาระหว่างชำ
ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 (อัตรา 1 ช้อนแกง : น้ำ20 ลิตร)
ให้รด 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง ใช้ 4-5 เดือน รากและยอดแก่ที่แข็งแรงสามารถย้ายปลูกได้
ศัตรูของผลแก้วมังกร
มดคันไฟ เพลี้ยอ่อน (ตอมยอด) ด้วงค่อมทอง (แทะกินกลีบผล) หนอน (เจาะเปลือกและเนื้อ)
เพลี้ยหอย (เกาะที่ปลายผล) พวกม้วนนักกล้าม (สันนิษฐานว่าทำให้ผิวของผลแก้วมังกรเป็นจุดคล้ายหนาม)
หนอนแมลงวัน นกและหนู (เจาะทำลายผล) เพลี้ยไฟ(ผิวผลจะกร้านและตกกระลายพบน้อยมาก)
หนอนบุ้ง เพลี้ยแป้ง ด้วงปีกแข็ง และต้องระวังมิให้สัตว์เลี้ยง เป็ด ไก่และห่านขุดคุ้ยโคนต้นได้
โรคพืชอื่น ๆ
ข้อแนะนำ
1. พันธุ์ที่นิยมปลูก ได้แก่-
พันธุ์เวียดนาม เนื้อขาวเปลือกแดง
ผลผลิต 2 ผล/กิโลกรัม-
พันธุ์ไทย ผลผลิต 3-4 ผล/กิโลกรัม มีรสหวาน
เมล็ดกรอบอร่อยเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค พันธุ์ลูกผสม (เวียดนามกับไทย) มีรสหวานอมเปรี้ยว ผลมีขนาดกลาง
2. พันธุ์ที่พบเห็นในท้องตลาด คือพันธุ์เบอร์ 100 ของสวนบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีและพันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดงของสวนจังหวัดชลบุรีและจันทบุรี
ตลาด/แหล่งจำหน่าย
ส่งตลาด อตก. ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท
ตลาดจตุจักร ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต บริษัทส่งออกผักและผลไม้ต่างประเทศ
และตลาดผลไม้ทั่วไป
ข้อเสนอแนะ
1.
ไม่ควรผลิตผลแก้วมังกรออกมามากจนเกินพอ และออกมาตรงกับผลไม้อื่น ๆ
2.
แก้วมังกรเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพน่าจะมีภาษีมากกว่าผลไม้หลาย ๆ ชนิด ถ้าผลผลิตออกมาจำนวนมากเช่น ทุเรียน เงาะ และ มะม่วง ราคาก็ถูกลงตาม ส่วนแก้วมังกรในประเทศไทยคาดว่าน่าจะมีแนวโน้มแบบชมพู่
คือมีราคาต่ำจนถึงราคาสูงมาก
3.
ไม่ควรนำแก้วมังกรส่งตลาดในตอนบ่ายหรือเย็น ซึ่งผู้ซื้อกลับบ้านแล้ว
อาจต้องขายแบบทิ้งทวนหรือเลหลังโดยไม่คำนึงถึงต้นทุนค่าใช้จ่าย
ไม่รู้ราคาในท้องตลาด
4.
ราคาผลแก้วมังกรขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าและช่วงเวลา โดยเฉพาะช่วงสินค้าขาดตลาดจะขายได้ราคาสูง
ยังไม่รวมผลผลิตนอกฤดูกาล ช่วงปีใหม่และตรุษจีนราคาจะสูงกว่าที่คำนวณไว้
5.
ต้องยอมรับว่าผลผลิตบางส่วนขายไม่ได้หรือต้องเลขาย เพราะคุณภาพไม่ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
ข้อสังเกต
ผลตอบแทนจะมากขึ้น/ลดลง
หรือขาดทุนไม่พอค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับ
1.
การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของผลผลิตแก้วมังกร และราคาขายผลแก้วมังกรสูงขึ้น/ต่ำลง
2.
ค่าใช้จ่ายแต่ละปีประมาณการไว้ลดลงหรือเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพในการดำเนินการและการบริหารส่วน
3.
ภัยธรรมชาติ และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
4.
การเอาเปรียบของพ่อค้าคนกลาง
Data from: doe
Images form: kapook,puechkaset,puvida